โดยปัจจัยเสี่ยงที่เราสามารถพบเห็นได้มากที่สุกจากคนรอบตัว ประกอบด้วย 4 ปัจจัยด้วยกัน ได้แก่ การไม่เคลื่อนไหวร่างกาย หรือขาดกิจกรรมทางกาย (Physical Inactivity), การได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอต่อร่างกาย และการมีภาวะโภชนาการที่ไม่ดี (Poor Nutrition), การสูบบุหรี่ (Smoking) และการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป (Alcohol) จากที่กล่าวมาทั้ง 4 ปัจจัย เป็นปัจจัยเสี่ยงที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ โดยเฉพาะกับพนักงาน การส่งเสริมให้พนักงานตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีให้กับสุขภาพของตนเอง ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันโรคเรื้อรังเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน ประสิทธิภาพในการผลิต และการมีส่วนร่วมอีกด้วย

การเคลื่อนไหวร่างกาย หรือกิจกรรมทางกาย (Physical activity)

        จากผลการวิจัยในประเทศไทยหลาย ๆ แห่งแสดงให้เห็นตรงกันว่า พนักงานส่วนใหญ่ที่ทำงานในประเทศไทยไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกายมากนัก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในประเทศแถบเอเชีย ซึ่งในประเทศไทยมีพนักงานที่ใช้อุปกรณ์ดูแลสุขภาพในการติดตามกิจกรรมการออกกำลังกายทุก ๆ วันเพียง 36% ของประชากรทั้งหมดเท่านั้น

         อย่างไรก็ตามการไม่เคลื่อนไหวร่างกายเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สามารถแก้ไขและปรับเปลี่ยนได้ โดยการเคลื่อนไหวร่างกาย หรือออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือสัปดาห์ละ 5 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที ซึ่งการออกกำลังกายสามารถทำได้ทุกทีทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นการแกว่งแขน หรือการเดินเร็ว ซึ่งการออกกำลังกายที่เพียงพออาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานประเภทที่ 2 หรือภาวะที่มีน้ำตาลในเลือดสูง และภาวะเมแทบอลิกซินโดรม หรือภาวะที่เกิดการเผาผลาญที่ผิดปกติ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งและโรคอ้วนด้วย

โภชนาการ (Nutrition)

        จากการสุ่มสำรวจกลุ่มตัวอย่างที่เป็นพนักงานในประเทศไทยพบว่า พนักงานรับประทานอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย โดยกินผักและผลไม้ในระหว่างวันที่ทำงานเพียง 42% เท่านั้น

การรับประทานอาหารให้สมดุลต่อร่างกาย ควรรับประทานให้ได้ดังต่อไปนี้

• ผักและผลไม้ ควรบริโภคให้เกิน 5% หรือประมาณ 400 กรัมต่อวัน
• โฮลเกรน หรือธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี หรือผ่านการขัดสีน้อยมาก ควรบริโภค 3% ต่อวัน
• เกลือธรรมชาติ หรือเกลือบริสุทธิ์ ควรรับประทาน 5 กรัมต่อวัน

คำแนะนำ : ให้รับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง ซึ่งส่วนใหญ่พบในถั่ว เมล็ดธัญพืช ข้าวกล้อง ผลไม่ และผัก

การสูบบุหรี่ (Smoking)

        7% ของพนักงานในประเทศไทยยังสูบบุหรี่อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งการสูบบุหรี่เกี่ยวข้องกับต่อโรคต่าง ๆ มากมาย เรียกได้ว่าควันของบุหรี่สามารถฆ่าทั้งคนสูบ และคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ โดยนิโคตินในบุหรี่จะไปลดความยืดหยุ่นของเส้นเลือด เพิ่มการสะสมของเกล็ดเลือด และการเกิดลิ่มเลือดที่อาจทำให้หัวใจวายได้ บุหรี่ 1 ม้วนสามารถลดอายุของคุณได้ประมาณ 7 นาที ดังนั้นควรเลิกสูบบุหรี่ให้ได้ ไม่ใช่เพื่อสุขภาพของคุณเท่านั้น แต่รวมถึงสุขภาพของเพื่อนร่วมโลกด้วย

การดื่มแอลกอฮอล์ (Alcohol)

       จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างที่เป็นพนักงานในประเทศไทย พบว่า พนักงานส่วนใหญ่ในกลุ่มตัวอย่างดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กำหนดไว้ การหยุดดื่มวันนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคมะเร็วหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปนับไม่ถ้วน หากเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ได้ควรเลี่ยง เพื่อชีวิตที่ยั่งยืนของคุณ
 

แท็กที่เกี่ยวข้อง :

พฤติกรรมเสริมสุขภาพ, ไข่ไก่, ไข่ขาว, โปรตีน, โปรตีนจากไข่ขาว, อัลบูมิน, Albupro